ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ ปู่เสือแสนเฮง หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นปู่เสือแสนเฮง เนื้อทองลำอู่ หมายเลข ๑๕๔๐

ขนาด 1.9 ซม. สูง 3.9 ซม.
 
วัตถุประสงค์ดี ร่วมฉลองซุ้มประตู วัดบ้านหนองจิก
วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2561 วัดบ้านหนองจิก
 
ประวัติ หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ
พระเกจิดังแห่งอิสานใต้ อายุ 109 ปี พระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดวิชาจาก หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์ใต้ 
 
ชื่อเดิม ปู่แสน คุ้มครอง เกิดขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ปีวอก ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มี่พี่น้องต่างมารดาร่วม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 3 (ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว) พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์ (ปัจจุบัน ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีษะเกษ) เมื่อครั้นยังเด็กหลวงปู่เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพรงและพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู จนได้บวชเณรที่วัดบ้านโพรง ระหว่างบวชเณร ได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับ หลวงพ่อมุมวัดปราสาทเยอใต้จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจาก หลวงพ่อมุม ทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี ระหว่างเป็นเณรก็ได้เที่ยวไปมาระหว่างบ้านปราสาทเยอใต้และบ้านโพง จนกระทั่งอายุ 21 ปีได้เข้าอุปสมบท ระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งอายุ 24 ปี ได้ลาสิขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน หลังจากสึกได้บวชเป็นหมอธรรมขณะที่เป็นคราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆหมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคารมเป็นนายก ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน ต่อมาพอหมดภาระทางบ้านหลวงปู่ได้กลับเข้าใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง โดยไปจำพรราที่บ้านกุดเสล่า อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ก็ได้ธุดงค์ในเทือกเขาพนมดงรัก เป็นนิจ และเป็นพระที่อยู่อย่างสมาถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสล่าจึงรักและศรัทธาท่านมาก ต่อมาหลวงตาวันพระที่เป็นสหายรุ่นน้องจึงได้ไปกราบนิมนต์มาช่วยสร้างวัด โดยเจ้าคณะอำเภอกันทรลักษณ์อนุญาตให้หลวงปู่ไปอยู่ที่วัดเป็นวัดที่สมบูรณ์แล้ว หลวงปู่จึงมาจำพรรษาที่วัดอรุณสว่างวราราม(วัดบ้านกราม) แต่ด้วยมักสมาถะ ปีต่อมาจึงย้ายมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์โนนไทย (วัดกูไทยสามัคคีในปัจจุบัน) อยู่จำพรรษา 3 พรรษา ต่อมาได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเนื่องด้วยวัดจะร้างเพราะพระน้อย หลวงปู่จึงเข้ามาทำนุบำรุงวัดจนวัดมีพระเข้ามารับช่วงต่อ ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเป็นเวลา 4 พรรษา โยมญาติพี่น้องเก่าจึงได้เดินทางมานิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพง วัดครั้นสมัยบวชเณรเนื่องจากวัดจะร้างไม่มีพระจำพรรษา เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาแม้อายุจะย่างเข้า 93 ปีท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพงโดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น ด้วยพระเดชของหลวงปู่วัดใดที่จะร้าง เมื่อท่านไปจำพรรษาวัดใด วัดนั้นก็จะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงก็ได้ทำนุบำรุงวัดเชกเช่นวัดอื่น จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิกจนถึงทุกวันนี้
 
 
**คาถาบูชาฤาษีปู่เสือ** 
 
ตั้งนะโม 3 จบ นะมัสสิตะวะ อิสีสิทธิโลกะนาถัง อนุตรัง อิสีพันธนังสาตรา อหังวันทามิตัง อิสีสิทธิเวสสะ (3จบ) สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะตะถาคะโต สิทธิเตโชชโยนิจจัง สิทธิลาโภนิรันตะรัง สัพพกัมมังประสิทธิเม (1จบ)
วิธีการบูชา อาจจะบูชาเดือนละ 1 ครั้ง โดยถวายดอกไม้ ธูป 5 ดอก เทียน 1 คู่ จุดบูชา พร้อมหมากพลู บุหรี่ น้ำชา ผลไม้ อาหารคาวหวานอย่างละนิดหน่อย บูชาในวันพฤหัสหรือวันพระ พร้อมภาวนาคาถาและขอพรตามปรารถนา หมั่นภาวนาบูชาเป็นมหาอำนาจ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากอุบัติเภทภัยอันตรายต่างๆ คุ้มครองให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข เสมือนหนึ่งมี ครูบาอาจารย์ คุ้มครอง ช่วยให้ ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน อธิษฐานสิ่งใดสำเร็จตามปรารถนาทุกประการโดยเฉพาะเรื่องโชคลาภดีนักแล 
 
ประวัติความเป็นมาของ ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ 
 
พ่อแก่ หรือ ฤาษีถือเป็นบรมครูของศาสตร์หลายแขนง เช่น ด้านศิลปะการแสดง ด้านการแพทย์ เป็นต้น ถือเป็นผู้ทรงศีลที่มีวิชาแก่กล้า บำเพ็ญเพียร อยู่แต่ในป่า เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา คอยช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่เข้าป่าไปก็จะได้มีโอกาสพอเจอทุกคน ต้องเป็นผู้มีบุญบารมีมากพอเท่านั้น จึงจะได้มีโอกาสพบเจอ ดั่งที่เราเคยอ่านประวัติพบเจอว่ามีพระเกจิอาจารย์ดังหลายรูปที่ เดินธุดงค์เข้าป่าแล้ว ได้มีโอกาสพบเจอ พ่อแก่ หรือ ฤาษีเหล่านี้ บางครั้ง ได้มีโอกาส ลองวิชา หรือ แลกเปลี่ยนวิชากัน บางทีก็ได้ฝากตัวเป็นศิตย์และได้ร่ำเรียนวิชาล้ำลึก พิศดารต่างๆ จาก ฤาษีเหล่านี้ ซึ่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่า แต่มีตบะวิชาแก่กล้ามากมายค่ะ จึงเป็นที่สิ่งที่น่าเชื่อได้ว่า ฤาษีเหล่านี้ มีตัวตนอยู่จริง หรือมาครั้งมาให้เห็นในนิมิตร เพื่อถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้พระเกจิอาจารย์ที่มีบุญบารมีสูง ในการสร้างวัตถุมงคล เพื่อช่วยเหลือ ลูกศิตย์ลูกหาที่มีปัญหาทุกข์ยากค่ะ ดังจะได้เห็นว่า พระเกจิอาจารย์หลายรูป จะนำเศียรฤาษีมาใช้ในการครอบครูในพิธีต่างๆ รวมทั้งพิธีบวงสรวงต่างๆ ก็มีการอันเชิญเศียรปู่ฤาษีด้วยเสมอ อีกทั้งในการทำพิธีปลุกเสก วัตถุมงคล ก็ต้องมีการอันเชิญ เศียรปู่ฤาษี เหมือนเป็นการบอกกล่าว อันเชิญให้ครูบาอาจารย์ ท่านมาร่วมพิธีด้วยค่ะ
 
พระฤษีหน้าเสือ และพระฤษีหน้ากวาง ทั้งสองตนนี้ มีที่มาแห่งเดียวกัน ในครั้งอดีต สมัยที่ทั้งสองยังไม่ได้ครองเพศฤษีก็ได้เป็นเพื่อนร่วมสาบานกันและอยู่ในสำนักอาจารย์เดียวกัน คืออาศรมของพระฤาษีวสิษฐ์ เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองมีตะบะบารมีแก่กล้าขึ้น ก็ต่างพากันแยกย้ายกันออกจากอาศรมของอาจารย์ เพื่อแสวงหาที่สงัดและปฏิบัติฌาณบารมี ตามวิถีของฤษีต่อไป
 
ตามตำนานพระฤษีหน้าเสือและพระฤษีหน้ากวาง ได้ทดลองวิชากัน
 
พระฤษีกาลสิทธิ์อยู่ด้านทิศใต้ ส่วนพระฤษีปะตาภาหรืออีกนามหนึ่งคือพระฤษีปิตน อยู่ทางทิศใต้ ต่างคนก็ต่างปฏิบัติและนานๆครั้ง ก็จะไปมาหาสู่ เพื่อเยี่ยมเยือนกันและกัน แต่ก็มิได้บ่อยนัก หลังจากที่ได้เร่งปฏิบัติอย่างเต็มความเพียร พระฤษีทั้งสองก็บารมีมากขึ้น มีอิทธิฤทธิและอาคมข้มแข็ง สามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้
 
อยู่มาวันหนึ่งพระฤษีกาลสิทธิ์หวนนึกถึงเพื่อนรัก คือ พระฤษีปะตาภา จึงเดินทางไปหายังอาศรม แต่อีกนัยหนึ่ง ก็หมายที่จะใคร่ลองวิชาที่ได้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างช่ำชอง เมื่อพระฤษีทั้งสองได้พบปะกันก็นั่งคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ และแน่นอน ก็ไม่ลืมที่จะพูดคุยกันถึงวิชาอาคมของตนเอง ต่างคนก็ต่างโอ้อวดกันว่าวิชาของตนเองนั้นดีกว่าเด่นกว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นทั้งสองตนจึงตกลงปลงใจว่าจะทำการทดลองวิชากัน
 
พระฤษีปะตาภา ได้ตักน้ำมาขันหนึ่งแล้วบริกรรมคาถา เพื่อเป็นน้ำมนต์เพื่อแก้อาคมให้เป็นเหมือนเดิมหลังจากที่ได้ทดลองวิชากัน จากนั้นก็นำขันน้ำมนต์ไปฝากไว้กับพระฤษีกาลสิทธิ์ ซึ่งฝ่ายพระฤษีกาลสิทธิ์ก็ได้ทำเช่นเดียวกัน โดยต่างฝ่ายก็ต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน และแล้วพระฤษีกาลสิทธ์ ก็ใช้มนต์คาถาแปลงกายให้ส่วนหัวกลายเป็นหน้าเสือโคล่งเหลืองอร่าม สวยงามยิ่งนัก ฝ่ายพระฤษีปะตาภาก็ไม่น้อยหน้า แสดงอิทธิฤทธิ์กลายร่างจนส่วนหัวมีรูปเป็นหน้ากวางงามสง่าเช่นกัน แล้วต่างฝ่ายก็ต่างพอใจที่มีวิชาอาคมเสมอกัน
 
แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีฤษีอีกตนหนึ่งชื่อพระฤษีอุตริ  คอยซุ่มแอบดูความเป็นไปทั้งหมดอยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปและกล่าวยกย่องพระฤษีทั้งสองว่ามีความเก่งกล้าในด้านวิชาบารมี แล้วจึงจับกลุ่มนั่งคุยกันฉันท์มิตร ในระหว่างที่กำลังสนทนากันอยู่นั้น พระฤษีอุตริก็มีความคิดว่า พระฤษีกาลสิทธิ์นี้ มีหน้าเป็นเสือ ดูแล้วก็สวยและแปลกดีจึงอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป ส่วนพระฤษีปะตาภาก็เช่นกันมีหน้าเป็นกวาง ดูสง่างามดี ไม่เคยพบเคยเห็น ถ้าให้เป็นอยู่อย่างนี้ต่อไปก็คงจะดี พระฤษีอุตริจึงหลอกคุยกับพระฤษีทั้งสองจนเพลิดเพลินและลืมไปว่าจะต้องทำให้กลับร่างเดิม
 
เมื่อพระฤษีทั้งสองเผลอ ฝ่ายพระฤาษีอุตริก็ได้แอบเข้าไปแย่งชิงขันน้ำมนต์ทั้งสองขัน และสาดน้ำมนต์ออกจนหมด เมื่อพระฤษีปะตาภาและพระฤษีกาลสิทธิเห็นเข้าก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว นั่นหมายความว่าพระฤษีทั้งสองจะกลับร่างเดิมไม่ได้อีกต่อไป ด้วยความโกรธอย่างถึงที่สุด พระฤษีทั้งสองจึงสำแดงฤทธิ์ ใช้วิชาอาคมสาป พระฤษีอุตริให้เป็น พระฤษีหน้าลิง ไปในกาลบัดนั้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงมีหน้าตาของฤษีที่แปลกประหลาดเพิ่มขึ้นมาอีกสามตน ก็คือพระฤษีหน้าเสือ พระฤษีหน้ากวาง และพระฤษีหน้าลิง ต่อมาภายหลังพระฤษีทั้งสามตนก็ต่างอโหสิซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายก็ต่างมุ่งบำเพ็ญตนอยู่ในอาศรมของตนเองภายในป่าเดียวกัน
 
 
เหมาะสำหรับทุกอาชีพ ทุกเพศทุกวัน แขวนเดี่ยวได้เลยค่ะ ไปไหนมาไหน ปลอดภัยเสมอค่ะ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าในด้านการงาน มีเสน่ห์ มีเมตตามหานิยมในตัว พบเจอแต่สิ่งดีๆ ขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตได้เป็นอย่างดีค่ะ ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ จะเมตตาช่วยเหลือ เกื้อกูลในทุกด้าน ให้ทุกสรรพสิ่ง ง่ายดาย และราบรื่นไปด้วยดีค่ะ การงาน การเงิน ก้าวหน้า ร่ำรวย เป็น มหาเศรษฐี
ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ ปู่เสือแสนเฮง หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นปู่เสือแสนเฮง เนื้อทองลำอู่ หมายเลข ๑๕๔๐
ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ ปู่เสือแสนเฮง หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นปู่เสือแสนเฮง เนื้อทองลำอู่ หมายเลข ๑๕๔๐
ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ ปู่เสือแสนเฮง หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นปู่เสือแสนเฮง เนื้อทองลำอู่ หมายเลข ๑๕๔๐
ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ ปู่เสือแสนเฮง หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นปู่เสือแสนเฮง เนื้อทองลำอู่ หมายเลข ๑๕๔๐
ปู่เสือ พ่อปู่เสือ ฤาษีปู่เสือ ปู่เสือแสนเฮง หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นปู่เสือแสนเฮง เนื้อทองลำอู่ หมายเลข ๑๕๔๐
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา0169 สาขาบิ๊กซี หัวหมาก ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านดาวมหามงคล
ดาวมหามงคล
ร้ายพระเครื่อง
เบอร์โทร : 0909522414
อีเมล : me_k.anurak@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม